11 Oct 2019
Author : Sirawit Pokha
ค่า F-stop, ค่า Shutter Speed, ค่า ISO หรือชื่ออย่างเป็นทางการก็คือ ค่ารูรับแสง, ค่าความเร็วชัตเตอร์ และค่าความไวแสง นั่นเอง (พอเข้าใจขึ้นหรือยังจ๊ะ?) อาจจะไม่ เพราะฉะนั้น เรามาคุยกันในแต่ละเรื่องเลยละกัน
รูรับแสงจะเป็นช่องที่อยู่ในเลนส์ คอยควบคุมให้แสงเข้ามามากหรือน้อย เลนส์ที่รูรับแสงกว้าง แสงจะเข้าที่กล้องมาก ถ่ายภาพกลางคืนได้ดี และที่สำคัญคือ ทำให้เกิดเอฟเฟคที่ชอบมากคือหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนรูรับแสงแคบ คือตรงกันข้าม ภาพจะเข้าที่กล้องน้อยลง
แต่จะได้เอฟเฟคที่เกิดการชัดลึก คือภาพชัดทั้งภาพเลย เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
การจำแนวของตัวเลขของรูรับแสงนั้นง่ายมาก ถ้ารูรับแสงกว้าง เลขหลังตัว F จะมีค่าน้อย เช่น f/1.8 และตรงกันข้ามก็คือ ถ้ารูรับแสงแคบ เลขหลังตัว F จะมีค่ามาก เช่น f/18 นั่นเอง
ความเร็วชัตเตอร์ คือ ความเร็วที่ตัวชัตเตอร์ หรือ ม่านที่ควบคุมปริมาณแสงที่เข้ามาในตัวกล้อง จะเปิดแล้วปิดหนึ่งครั้ง และกล้องจับภาพตามเวลาของชัตเตอร์ หลักเลยคือเราใช้จับภาพที่เคลื่อนไหวให้นิ่งครับ แต่ก็ผลกระทบเหมือนกันคือเมื่อความเร็วชัตเตอร์เราเพิ่มขึ้น แสงจะเข้ากล้องน้อยลง เพราะงั้นการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงควรใช้ในสถานที่ ที่อยู่กลางแจ้ง มีแสงมากครับ เพื่อจะได้ไม่ต้องเพิ่ม ISO แต่ Speed Shutter ที่ช้าลงจะทำให้เราเก็บแสงได้มากขึ้น และก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่เราใช้ในการลากแสงไฟนั่นเองดังนั้นการจะใช้ชัตเตอร์เท่าไหร่นั้นไม่มีกฎตายตัวนะครับ อยู่กับว่าเราอยากได้ภาพแบบไหน และเรากำลังเจอสถานการณ์ไหนนั่นเอง Shutter Speed มีหน่วยเป็นวินาที แนวของตัวเลขของนั้น ให้ดูเลขข้างหลัง 1/XXXX ถ้าเลขข้างหลังมีค่ามาก เช่น 1/4000 ก็หมายความว่าถ้าเราคิดเลข 1 หารด้วย 4000 ก็จะเท่ากับเวลาที่ม่านจะเปิดแล้วปิด ซื่งเร็วมาก ๆ และถ้าเลขข้างหลังมีค่าน้อย เช่น 1/20 ไปจนถึงมากกว่า 1 เช่น 5 (ลองปรับดูในกล้อง) ก็หมายความว่าเวลาที่ใช้ ก็มีปริมาณมากนั่นเอง
ISO เป็นความไวแสงที่กล้องมี ถ้ายิ่ง ISO มาก กล้องก็จะไวแสงมาก ข้อดีคือ ISO สูงจะทำให้เราถ่ายภาพในที่มืดได้ แต่การที่ ISO สูงมากก็จะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนหรือว่า Noise นั่นเอง ดังนั้นการเลือกใช้ ISO ก็ควรดูด้วยว่าเราต้องการอะไรในภาพตอนนั้น ถ้าเราถ่าย Landscape กลางแจ้ง มีขาตั้ง เราก็ไม่ต้องดัน ISO มาก ใช้ต่ำที่สุดที่กล้องให้ก็ได้ แต่ถ้าหากเราถ่ายภาพในอาคาร เราไม่สามารถเพิ่มรูรับแสง หรือลดสปีดจนถือกล้องได้แล้ว เราก็ควรเลือกที่จะดัน ISO เพื่อให้กล้องรับแสงได้ไวขึ้น มี Noise ดีกว่าไม่ได้ภาพเลย แต่ก็ไม่ควรดันมากไป
การตั้งค่ากล้องไม่มีค่าไหนที่ดีที่สุด เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจองค์ประกอบนี้ว่าแต่ละอย่างทำงานร่วมกันอย่างไร ทั้งสามอย่างนี้ จะเป็นพื้นฐานที่ดีที่สุดสำหรับการเปิดรับแสงถ่ายภาพครับ ซึ่งมีทิปง่าย ๆ ให้จับทางการฝึกตามนี้
1. หากว่าเราใช้รูรับแสงกว้าง แสงจะเข้ากล้องเยอะ และจะเกิดความชัดตื้นมากขึ้น ช่วยให้แยกวัตถุออกจากฉากหลังได้ และโบเก้สวย
2. เมื่อถ่ายภาพควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ = ทางยาวโฟกัส เพื่อไม่ให้ภาพเบลอ (ถ้ากล้องที่มีกันสั่นในตัวจะลดความเร็วชัตเตอร์ได้ต่ำกว่าปกติอยู่หน่อย
3. ความเร็วชัตเตอร์ที่แตกต่างกัน ช่วยให้เกิดลักษณะของภาพที่ต่างกัน ความเร็วชัตเตอร์สูงจะหยุดภาพได้นิ่งแต่แสงเข้ากล้องน้อย ถ้าความเร็วชัตเตอร์ต่ำ แสงเข้ากล้องเยอะ แต่ก็มีข้อจำกัดคือต้องใช้ขาตั้งกล้อง สายลั่นเป็นต้น
4. ถ่ายภาพให้ใช้ ISO ต่ำที่สุดเพื่อเลี่ยง Noise แต่ถ้าจำเป็นต้องเพิ่ม ก็เพิ่ม